มันไม่ใช่
สังขารไม่ใช่ของตัวของตน...
รูปนามหรือสกนธ์กายเรานี้มันจึงดูได้ยาก ถ้าหากไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน...
ไม่ใช่ของตนแล้ว มันเป็นตัวของใคร...?อันนี้มันถึงแยกยาก
มันถึงลำบาก..เราจะต้องอาศัย 'ปัญญา' ...
ดังนั้น...พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านจึงสอนว่า...
'การกระทำก็กระทำด้วยการปล่อยวาง'...
อันนี้ก็ฟังยากเหมือนกัน...
ถ้าจะปล่อยวาง ก็ไม่ทำเท่านั้น...
เพราะทำด้วยการปล่อยวางเปรียบง่ายๆให้ฟัง...
เราไปซื้อกล้วยหรือซื้อมะพร้าวใบหนึ่งจากตลาด...
แล้วก็เดินหิ้วมา อีกคนหนึ่งก็ถาม...
"ท่านซื้อกล้วยมาทำไม...?"
"ซื้อไปรับประทาน"
"เปลือกมันต้องรับประทานด้วยหรือ...?"
"เปล่า"
"ไม่เชื่อหรอก ไม่รับประทานแล้วเอาไปทำไมเปลือกมัน"
หรือเอามะพร้าวใบหนึ่งมาก็เหมือนกัน...
"เอามะพร้าวไปทำไม...?"
"จะเอาไปแกง"
"เปลือกมันแกงด้วยหรือ...?"
"เปล่า"
"เอาไปทำไมล่ะ.."
เอ้า..จะว่าอย่างไรล่ะ เราจะตอบปัญหาเขาอย่างไร...?
ทำด้วยความอยาก ถ้าไม่อยากเราก็ไม่ได้ทำ....
ทำด้วยความอยากมันก็เป็น 'ตัณหา'...
นี่ถึงให้มันมี 'ปัญญา'นะ...
อย่างกล้วยใบนั้นหวีนั้น เปลือกมันจะเอาทานด้วยหรือเปล่า..?
ไม่ ท่านเอาไปทำไมเปลือกมัน...?
ก็เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาเอามันทิ้ง...
มันก็ห่อเนื้อในมันไปอยู่อย่างนั้น...
ถ้าหากว่าเราเอากล้วยข้างในมันทานแล้ว...
เอาเปลือกมันโยนทิ้งไปก็ไม่มีปัญหาอะไร...
นี่ก็เหมือนกัน...
หลวงพ่อชา สุภัทโท
ข้อมูลโดย บันทึกของว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)
http://www.facebook.com/notes.php?id=166509296166